การทำวิจัยด้านบัญชี
การทำวิจัยด้านบัญชี เป็นการศึกษาวิจัยหาข้อเท็จจริงด้วยระบบอันมีระเบียบแบบแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้หรือข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบัญชี โดยกระบวนการวิจัยทางด้านบัญชี เริ่มต้นจากการเลือกหัวข้อวิจัย จนกระทั่งได้ผลลัพธ์ในรูปแบบของรายงานการวิจัย การทำวิจัยบัญชี มีองค์ประกอบสำคัญ คือ ชื่อหัวเรื่อง ความสำคัญของปัญหาการวิจัย วัตถุประสงค์ขอบเขต ประโยชน์ วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ระเบียบวิธีวิจัย บุคลากรผู้ทำวิจัย งบประมาณ เอกสารอ้างอิงและภาคผนวก การวิจัยด้านการบัญชีสามารถทำได้ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ การทำวิจัยบัญชี สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ การวิจัยด้านการบัญชีการเงินและการวิจัยด้านการบัญชีบริหาร เริ่มจากการระบุหัวข้อวิจัย การกำหนดประเด็นปัญหา วัตถุประสงค์ เพื่อนำไปสู่การกำหนดกรอบแนวคิดการศึกษา และแตกแนวคิดย่อยๆ ออกมาในรูปของตัวแปรหรือสิ่งที่สนใจจะศึกษาค้นคว้าด้านการบัญชี
ความเหมือนและความแตกต่างของการทำวิจัยทางสังคมศาสตร์ทั่วไป และ การทำวิจัยด้านบัญชี
การบัญชีเป็นส่วนหนึ่งของสังคมศาสตร์ ดังนั้น การวิจัยบัญชีย่อมเป็นส่วนหนึ่งของ การทำวิจัยทางสังคมศาสตร์ ทั่วไป กล่าวคือ เป็นกระบวนการหาข้อสรุปซึ่งเป็นข้อเท็จจริง เพื่ออธิบายปรากฎการณ์นั้นด้วยระบบระเบียบแบบแผน การวิจัยทางบัญชี เป็นกระบวนการหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการบัญชี โดยอาศัยองค์ประกอบที่เป็นศาสตร์ความรู้ที่พัฒนามาจากการพัฒนาทฤษฎีทางการบัญชี วิชาชีพบัญชี การพัฒนาองค์กรธุรกิจและบุลากรทางการบัญชี ซึ่งมีกระบวนการในการทำวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาวิชาชีพ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบัญชี หรือ การบัญชี เป็นศาสตร์ที่มีลักษณะเฉพาะ ดังนั้น การทำวิจัยด้านบัญชี จึงมีความแตกต่างจากการทำวิจัยสังคมศาสตร์ทั่วไป ซึ่งอาจสรุปได้ดังนี้
- ความแตกต่างด้านการจัดประเภทการวิจัย การวิจัยทางการบัญชี สามารถจำแนกตามประเภทของการวิจัย ออกเป็นการวิจัยด้านบัญชีการเงิน และ บัญชีด้านการบัญชีบริหาร
- ความแตกต่างด้านขอบเขตของการวิจัย การวิจัยทางการบัญชี สามารถนำข้อมูลในงบการเงินเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ด้วยกระบวนการทางการบัญชี ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการจดบันทึก การจำแนกประเภทบัญชี การปรับปรุงรายการทางบัญชี และการจัดทำงบการเงิน (Finance Report) ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ภายใต้หลักการบัญชีที่ได้รับการรับรอง และกระบวนการทำวิจัยบัญชี จะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการบัญชี ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
- ความแตกต่างด้านการกำหนดตัวแปร (Variable) เนื่องจากตัวแปรหรือปัจจัย เป็นสิ่งที่กำหนดมูลค่า หรือ จำนวนสำหรับการทำวิจัย โดยได้มาจากโครงสร้างของกรอบแนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการวิจัย โดยในการทำวิจัยบัญชีนั้น จะมีกรอบแนวคิดด้านนโยบายบัญชีที่ชัดเจนและรัดกุม เพื่อให้นักบัญชียึดถือปฏิบัติในการปฏิบัติงาน โดยกรอบแนวคิดนี้ สามารถนำมาใช้ในการกำหนดเป็นตัวแปรในการทำวิจัยได้ เช่น กรอบแนวคิดวัตถุประสงค์ของงบการเงิน ตัวแปรการวิจัยที่สามารถใช้เป็นข้อมูลแสดงถึงฐานะทางการเงิน ข้อมูลที่เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะผลการดำเนินงานด้านบัญชีและการเงิน รวมไปถึง กรอบแนวคิดด้านนโยบายการบัญชี ซึ่งตัวแปรที่สามารถเลือกมาใช้ในกรอบแนวคิดสำหรับการทำวิจัยด้านบัญชี มักจะเกี่ยวข้องกับการรับรู้รายการสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รวมทั้ง รายได้และค่าใช้จ่าย เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ปรากฎในงบการเงินทั้งสิ้น
- ความแตกต่างด้านลักษณะทางการบัญชี ข้อมูลทางการบัญชีมีทั้งข้อมูลที่เป็นตัวเลขและข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข แต่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นของผู้บริหารบริษัทหรือองค์กรธุรกิจ ข้อมูลทางการบัญชีมีประโยชน์ด้วยการเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการเงิน การดำเนินงาน ทำให้ผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อการคาดการณ์และพยากรณ์ ถึงความอยู่รอดและแนวโน้มการประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งการวิจัยทางการบัญชีจะทำให้สามารถค้นพบปัญหา และนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพต่อไป
- ความแตกต่างด้านทฤษฎี เนื่องจากการบัญชี มีลักษณะของการปฏิบัติงานด้วยการจัดเก็บ จดบันทึก รวบรวมเอกสารหลักฐานทางการบัญชี การจำแนก การวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นตัวเลขหรือตัวเงิน โดยยึดหลักการในเรื่องของความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูล ข้อมูลหรือรายงานทางการเงินโดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ นักลงทุน ตลอดจนประชาชนที่สนใจ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการตัดสินใจในด้านต่างๆ ได้อย่างถูกต้องมากที่สุดจากข้อมูลเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ นักบัญชี หรือ ผู้ทำบัญชี ย่อมมีหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วยการคำนึงถึงความถูกต้อง และประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ไม่เฉพาะแต่ในองค์กรธุรกิจของตนเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกด้วย ด้วยการปฏิบัติงานด้วยความเป็นมืออาชีพ คำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่าย ทำหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ด้วยการจัดทำรายงานทางการเงินอย่างถูกต้อง และมีความระมัดระวัง ซึ่งมีทฤษฎีทางการบัญชีที่เกี่ยวข้องและนำมาใช้เป็นหัวข้อสำหรับการทำวิจัยทางการบัญชีอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ทฤษฎีพิทักษ์ผลประโยชน์ (Stewardship Theory) ทฤษฎีการส่งสัญญาณ (Signaling Theory) ทฤษฎีบัญชีเชิงบวก (Positive Accounting Theory) และ ทฤษฎีตัวแทน (Agency Theory) เป็นต้น
จากความแตกต่างสำคัญทั้ง 5 ประการดังกล่าว จะเห็นว่า การทำวิจัยด้านบัญชี เป็นการศึกษาอย่างมีระบบแบบแผน เป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็น หลักการสำคัญของ การทำวิจัย กล่าวคือ มีการกำหนดข้อสมมติฐาน (Assumption) การเก็บรวบรวมข้อมูล และการสรุปผล โดยการวิจัยทางการบัญชี จะมีลักษณะเหมือนกับการทำวิจัยด้านสังคมศาสตร์ การวิจัยทางบัญชีสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้ง การทำวิจัยเชิงปริมาณ การทำวิจัยเชิงคุณภาพ และการทำวิจัยด้วยเทคนิคผสมผสาน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยต้องมีคุณลักษณะที่ดี ตามข้อกำหนดเบื้องต้น เพื่อให้การดำเนินการวิจัยอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และหลักการทางวิชาการ
การทำวิจัยด้านบัญชี การทำวิจัยด้านบัญชี เทคนิคการทำวิจัยบัญชี
วัตถุประสงค์ของ การทำวิจัยด้านบัญชี
การดำเนินการวิจัยทางการบัญชี มีวัตถุประสงค์ในการจัดทำ (สรชัย พิศาลบุตร,
2554; สุมินทร เบ้าธรรม, 2558) ดังนี้
1. เพื่อข้อค้นพบที่เกิดขึ้น จากงานวิจัยนำมาใช้ประโยชน์กับงานบัญชีทั้งในส่วนของ การวางแผน การตัดสินใจ การควบคุมและการประเมินผลการปฏิบัติงาน
2. เพื่อให้มีการพัฒนา ความรู้ทางการบัญชี ทั้งใน ด้านทฤษฎี และ การปฏิบัติให้เกิดการขยายขอบเขตมากขึ้น
3. เพื่อเป็นแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานขององค์กร รวมทั้ง การประเมินปัญหา และ ผลกระทบต่างๆ ต่อสังคม
4. เพื่อศึกษากลยุทธ์ที่นำมาใช้ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตที่จะนำกลยุทธ์ ด้านการบัญชีบริหารมาใช้
5. เพื่อศึกษา การประยุกต์ใช้ การบัญชีบริหาร เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น
6. เพื่อศึกษา สถานประกอบการ เกี่ยวกับความต้องการ ในการใช้ข้อมูลทางการบัญชีบริหาร
7. เพื่อศึกษา ความสัมพันธ์ของข้อมูลทางธุรกิจกับวิธีการในการปฏิบัติเกี่ยวกับบัญชี ที่จะนำมาใช้ ในการบริหารภายในของธุรกิจ
8. เพื่อการพิสูจน์แนวคิดต่างๆ หรือเป็นการสร้างทฤษฎีโดยใช้เครื่องมือทางด้านสถิติ
ลักษณะของการทำวิจัยด้านบัญชี
การวิจัยทางการบัญชีมุ่งเน้นการค้นหาข้อเท็จจริง เพิ่มพูนความรู้ใหม่ในสาขาวิชาอย่างมีระบบ เพื่อให้ได้ข้อสรุป และ การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องแม่นยำ การได้มาซึ่งงานวิจัยที่มีคุณภาพ เป็นไปตามระเบียบวิธีวิจัย และ หลักวิชาการตามสาขาวิชาการบัญชีนั้น มีลักษณะของการวิจัย ดังนี้
1. การวิจัยจะต้องนำไปสู่การแก้ปัญหา
2. การวิจัยควรเป็นการพัฒนาข้อสรุปทั้งที่เป็นนัยทั่วไป (Generalization) และทฤษฎี
(Theory)
3. การวิจัยอยู่บนพื้นฐานของประสบการณ์ที่สามารถสังเกตได้ (Observable Experience) หรือ หลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Evidence)
4. การวิจัยต้องมีการสังเกตที่ถูกต้อง (Accurate observation) และต้องพรรณนาความได้ ซึ่งผู้วิจัยสามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการค้นหาคำตอบ
5. การวิจัยเกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลใหม่ คือ เป็นการใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วสำหรับ วัตถุประสงค์เรื่องใหม่
นอกจากลักษณะของการวิจัยดังกล่าวแล้ว การทำงานวิจัยด้านบัญชี ยังจำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความ
ชำนาญ ความเพียร ซื่อสัตย์ ความมีระบบ มีเหตุผล มีเป้าหมาย ต้องมีเครื่องมือหรือเทคนิคใน การเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้งต้องมีการบันทึก และ ต้องเขียนรายงานวิจัยอย่างระมัดระวัง
ประเภทของ การวิจัยด้านบัญชี
การวิจัยตามศาสตร์ของการบัญชี สามารถจำแนกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ (สุนา สิทธิเลิศ
ประสิทธิ์, 2554)
1. การวิจัยด้านการบัญชีการเงิน (Research of financial accounting) เป็นการวิจัยทางการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ การรวบรวม การจำแนก และรายการข้อมูลทาง ด้านการเงินที่เกิดขึ้นในอดีต โดยถือหลักการปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือเป็นไปตาม มาตรฐานการบัญชี
2. การวิจัยด้านการบัญชีบริหาร (Research of managerial accounting) เป็นการวิจัยทางการบัญชี มุ่งให้ข้อมูลภายในองค์กรเพื่อนำมาใช้ในการวางแผน การสั่งการ การควบคุม และ การตัดสินใจสำหรับการดำเนินงานภายในองค์กร รูปแบบรายงานด้านการบัญชีบริหารไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความต้องการข้อมูลของผู้บริหาร
ประเภทของการวิจัยทางการบัญชี นอกจากจะแบ่งเป็น การวิจัยด้านการบัญชีการเงิน และ การวิจัยด้านการบัญชีบริหารแล้วนั้น การวิจัยทางการบัญชี สามารถจัดทำได้ตาม พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 โดยกำหนดไว้เป็น 8 ประเภท ดังนี้
1. การทำบัญชีเป็นงานเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล การรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการจัดทำรายงานการเงิน
2. การสอบบัญชีเป็นการตรวจสอบเอกสารประกอบการลงบัญชีตามมาตรฐานการสอบบัญชีและสมุดบัญชีเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของงบการเงิน
3. การบัญชีบริหาร เป็นการจัดทำบัญชีรวมทั้งรายงานทางการเงินเพื่อใช้ในการวางแผนงาน การควบคุมและการตัดสินใจ โดยจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ข้อมูล
4. การวางระบบบัญชีเป็นการออกแบบแผนการปฏิบัติงานด้านการบัญชีเกี่ยวกับการ ใช้และการเก็บรักษา ตลอดจนการจัดเก็บข้อมูลทางด้านการเงิน การแยกประเภทบัญชีการบันทึกบัญชีและเอกสารและสมุดบัญชีต่างๆ
5. การบัญชีภาษีอากร เป็นการปรับหลักการบัญชีหรือมาตรฐานการบัญชีให้มีความสอดคล้องกับประมวลรัษฎากรและกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง
6. การศึกษาและเทคโนโลยีบัญชีเป็นการประยุกต์เครื่องมือ วัสดุและวิธีการต่างๆโดยการนำศาสตร์ด้านการบัญชีมาจัดการเรียนการสอน
7. การกำหนดมาตรฐานบัญชีเป็นการกำหนดแนวคิดหรือวิธีการในการปฏิบัติงานด้านการบัญชีซึ่งเกิดจากนักบัญชีมีความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีจะต้องบันทึกเมื่อใด มีมูลค่าเท่าใดและจะทำการเสนอรายงานในงบการเงินอย่างไร ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
8. การพัฒนาวิชาชีพบัญชีคือ กระบวนการต่างๆ ในการพัฒนาความสามารถ(Capability) ส่งเสริมศักยภาพ (Potential) ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้มีสมรรถนะ(Competence) ด้านวิชาชีพบัญชีเพิ่มขึ้น
หัวข้อวิทยานิพนธ์ บัญชีมหาบัณฑิต บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการบัญชี ที่ตีพิมพ์ในปี 2564-2565 สำหรับเป็นแนวทาง การทำวิจัยด้านบัญชี
1 | การศึกษาเปรียบเทียบแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีไทยกับหลักเกณฑ์ตามประมวลรัษฎากรของธุรกิจ SMEs By : รัชดาภรณ์ ลูณสาคร Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
2 | คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสำนักงานบัญชีคุณภาพ ในมุมมองของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดนนทบุรี By : เกรียงจิตติ วิรัตน์ Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
3 | รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษาเปรียบเทียบแนวปฏิบัติทางบัญชีกับหลักเกณฑ์ทางภาษีอากรของกิจการขายผ่อนชำระ เช่าซื้อ และลิสซิ่ง By : สุรชัย เอมอักษร;จินตนา โสมโสดา;สุกัญญา วงษ์ละคร Date Create : Type : งานวิจัย/Research report Institute : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ | |
4 | ต้นทุนฐานกิจกรรมของกระบวนการประสานรายการยาแผนกผู้ป่วยในโรงพยาบาลคามิลเลียน กรุงเทพมหานคร By : เกล็ดดาว ธิมา Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยนเรศวร | |
5 | การศึกษาองค์ประกอบการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศตามกรอบงาน COBIT 5 By : ณัฐนันท์ เสริฐสุวรรณกุล Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
6 | ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ระบบกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติในงานบัญชี By : มงคล เฉียดผักแว่น Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
7 | การยอมรับเทคโนโลยีที่มีผลต่อการใช้ระบบบริการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ By : สุธีกานต์ สุขโกมล Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
8 | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานระบบบัญชีออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งของสำนักงานบัญชี By : โอชิล เหิมขุนทด Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
9 | การวิเคราะห์ต้นทุนการเลี้ยงโค 3 สายพันธุ์ โดยใช้ต้นทุนตามฐานกิจกรรม By : ลัดดา ศรียอดแส Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
10 | ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงระดับการผลิตสินค้าคงเหลือต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ By : วีรชัย เจริญรังสรรค์ Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
11 | ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้สารสนเทศทางการบัญชีบริหารกับผลการดำเนินงานขององค์กร By : วราภรณ์ เหลืองวิลัย Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
12 | ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการใช้ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ e-LAAS ของนักบัญชีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ น่าน By : เฉลียง วงค์จินดา Date Create : Type : งานวิจัย/Research report Institute : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ | |
13 | คุณภาพของข้อมูลทางบัญชีด้านความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจและต้นทุนของเงินทุน : บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และ ดัชนี SET 100 By : ชนิดา จันทนฤมาน Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
14 | ผลกระทบของการบัญชีดิจิทัลที่มีต่อคุณภาพของรายงานการเงิน By : พิมพาภรณ์ พึ่งบุญพานิชย์;นภา นาคแย้ม Date Create : Type : งานวิจัย/Research report Institute : มหาวิทยาลัยคริสเตียน | |
15 | ความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นและกำไรสุทธิต่อหุ้นวิธีมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน:บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง By : รัชดาภรณ์ เสมาขันธ์ Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
16 | การพัฒนานวัตกรรมทางการบัญชีของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) By : สรารีย์ จิรังดา Date Create : Type : Article/Proceeding Institute : มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น | |
17 | การวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมตามเกณฑ์เวลาของผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีหัตถการสวนหัวใจสำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ กรณีศึกษาโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ By : ชัชฎาภรณ์ นาคแก้ว;เสกสรร สุธรรมานนท์;อารีย์ ธีรภาพเสรี;ภาสุรี แสงศุภวานิช;สิริรัตน์ สุวัชรชัยติวงศ์;นิกร ศิริวงศ์ไพศาล Date Create : Type : บทความ/Article Institute : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ | |
18 | การลดต้นทุนโลจิสติกสด้วยเทคนิคการบัญชีต้นทุนฐานกิจกรรมของบริษัทเหมืองแร่หินปูน By : ฤทัยภัทร ศุกระศร;อภิชาต โสภาแดง Date Create : Type : บทความ/Article Institute : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ | |
19 | การศึกษาการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรม FINCIAL By : ภัทธิยะ วันธงชัย Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | |
20 | คุณสมบัติของสำนักงานบัญชีที่ส่งผลต่อการเลือกสำนักงานบัญชี By : Date Create : Type : วิทยานิพนธ์/Thesis Institute : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ |
การทำวิจัยด้านบัญชี ตัวอย่าง หัวข้อดุษฎีนิพนธ์ด้านการบัญชี
- คุณภาพข้อมูลทางบัญชี ด้านความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ และ ต้นทุนของเงินทุน : บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI และ ดัชนี SET 100 (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบัญชี, 2563)
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการบัญชีแบบลีนและผลการดำเนินงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย (THE FACTORS IMPACT ON LEAN ACCOUNTING AND PERFORMANCE OF THAI’S SMALL AND MEDIUM ENTERPRISES) (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบัญชี, 2563)
- ตัวแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในประเทศไทย THE CAUSAL RELATIONSHIP MODEL OF FACTORS INFLUENCING ON GROWTH OF SMALL AND MEDIUM ENTERPRISES IN THAILAND (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบัญชี, 2562)
- การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบัญชีภาษีอากรสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี The development of a training program to enhance tax accounting knowledge of professional accountants (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบัญชี, 2562)
เนื้อหาทั้งหมดข้างต้น รวมถึง หัวข้อ วิทยานิพนธ์บัญชี และ ดุษฎีนิพนธ์ หรือวิจัยปริญญาเอกสาขาการบัญชี สามารถเป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการตัดสินใจเบื้องต้น สำหรับการนำมาประยุกต์ใช้ ตั้งแต่การกำหนดหัวข้อวิจัย วิทยานิพนธ์ และดุษฎีนิพนธ์ทางการบัญชี การกำหนดตัวแปรในกรอบแนวคิด ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล และการเขียนผลวิทยานิพนธ์ ผลดุษฎีนิพนธ์ ที่ได้รับการยอมรับในเชิงวิชาการระดับสูงได้เป็นอย่างดี

อ้างอิง :