การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์

การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์

เทคนิค แนวทาง การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์

การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์  เป็นขั้นตอนต่อเนื่องจากการที่นักวิจัยหรือนิสิต นักศึกษา ซึ่งโดยมากเป็นระดับปริญญาโทและปริญญาเอก  เนื่องจากการวิจัยเป็นกิจกรรมที่มีการลงทุนสูง ทั้งการใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เวลาของบุคคลตลอดจนทรัพยากร การบริหารต่าง ๆ โดยเฉพาะงบประมาณ เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ เป้าหมายของการวิจัย คือการสร้างสรรค์ สั่งสมความรู้ และการนำไปใช้ประโยชน์ การวิจัยจะบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย อำนวยประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการเผยแพร่ผลการวิจัยอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงและเกื้อกูลให้การวิจัยได้รับการนำไปใช้ประโยชน์ สนับสนุนการพัฒนาบุคคล องค์กร วิชาชีพ และสังคม

การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์
การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์

ทั้งนี้ ในปัจจุบันพบว่ารูปแบบการเผยแพร่ในลักษณะการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการนั้น ถือได้ว่าเป็นช่องทางที่มีความเป็นรูปธรรมและสามารถดำเนินการได้โดยไม่ยาก เนื่องจากมีวารสารจำนวนมากที่จัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานประเภทบทความวิจัยโดยตรง  เนื่องจากสถาบันทางการศึกษามีความจำเป็นในการรองรับมาตรฐานทางวิชาการทั้งในส่วนของอาจารย์ บุคลากร นิสิต
นักศึกษา นอกจากนี้หน่วยงานอื่น ๆ ยังต้องการสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดคุณค่าแล้ว ยังเป็นการประกันคุณภาพของหน่วยงานอีกด้วย “วารสารทางวิชาการ” จึงนับเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้นักวิชาการในทุกหน่วยงานได้เสริมบทบาทการเป็นนักวิจัย

โดยที่การจัดทำวารสาร ต่าง ๆ มีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันคือเพื่อเผยแพร่ผลงานของบุคลากรในสังกัด ดังนั้นการจัดทำวารสารทางวิชาการเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าวจึงต้องมีการกำหนดรูปแบบและเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของวารสารนั้น ๆ เพื่อส่งผลต่อผลงานที่นำมาลงเผยแพร และประกันคุณภาพของผลงานทางวิชาการนั้นว่ามีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการต่อไป

เทคนิคการเลือกวารสารสำหรับตีพิมพ์

เมื่อทำการวิจัยจนสำเร็จลุล่วง งานวิจัยนั้นจะเกิดประโยชน์ในวงกว้างก็ต่อเมื่อมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนนำไปสู่ความก้าวหน้าทางวิชาการ หรือการประยุกต์ใช้ต่อไป ซึ่งการเผยแพร่องค์ความรู้ให้เป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการหรือวิชาชีพก็จะต้องมีการตีพิมพ์ผลงานในระดับนานาชาติ โดยนักวิจัยนำผลงานวิจัยที่ได้มาเรียบเรียงถ่ายทอดออกมาเป็นบทความทาง
วิชาการหรือต้นฉบับที่เรียกว่า Manuscript แล้วนำส่งวารสารเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ต่อไป การเลือกวารสารจึงถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพื่อจัดเตรียมต้นฉบับได้สอดคล้องตามเกณฑ์ที่วารสารแต่ละฉบับกำหนดไว้

ทั้งนี้วารสารทางวิชาการนั้นอาจเผยแพร่เป็นรูปเล่มสิ่งพิมพ์หรือเป็นวารสารออนไลน์ที่มีกำหนดการเผยแพร่ที่ชัดเจนแน่นอน แนวทางในการเลือกวารสารสำหรับตีพิมพ์ มีดังนี้
1. ควรเลือกวารสารทางวิชาการอันเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ ซึ่งจะมีการตรวจคัดกรองคุณภาพผลงานโดยผู้ประเมินอิสระ (peer review)
2. วารสารนั้นควรอยู่ในฐานข้อมูลสากลอันเป็นที่ยอมรับในระดับ นานาชาติ เช่น Materials Research Bulletin, Scopus, Science Direct, Current Applied Physics, Key Engineering Materials, Inorganic Chemistry , Surface & Coatings Technology, INSPEC และ BIOSIS เป็นต้น
3. ควรพิจารณาค่า Impact factor ประกอบด้วย เพราะเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของวารสารซึ่งวัดจ านวนครั้งโดยเฉลี่ยที่บทความในวารสารนั้นจะได้รับการอ้างอิงในแต่ละปี

ปัจจุบันมีการผลิตและเผยแพร่วารสารแบบเสรีหรือวารสารแบบเปิด (open access journals) ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชาทั้งด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ฯลฯ วารสารแบบเปิด เป็นวารสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดกว้างส าหรับผู้อ่านในการเข้าถึง อ่าน ดาวน์โหลด ทำสำเนา เผยแพร่ พิมพ์ ค้นหา หรือเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาฉบับเต็ม (full text) ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องขออนุญาตจากผู้เขียนหรือผู้สร้างสรรค์งาน แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งกฎหมายใหม่ของสหรัฐอเมริกา
สหราชอาณาจักร (UK) และสหภาพยุโรป (EU) ก าหนดว่างานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากรัฐบาลจะต้องเผยแพร่ให้สาธารณชนเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงเป็นประโยชน์ส าหรับนักวิจัยในการสืบค้นข้อมูลและตีพิมพ์เผยแพร่ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ตัวอย่างวารสารแบบเปิดที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น Science Direct เป็นต้น (สุดาว เลิศวิสุทธิไพบูลย์,
2557)

 8 ขั้นตอนการส่งบทความวิจัย ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ

การทำวิจัยนับว่าเป็นภาระหน้าที่ ที่สำคัญประการหนึ่งของนักวิชาการ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นอาจารย์ เนื่องจากการวิจัยจะช่วยให้เกิดการพัฒนาความรู้ และผลของงานวิจัย ยังสามารถน าไปใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนางานในหน้าที่ได้ ซึ่งการท าวิจัยนั้น ไม่ควรหยุดนิ่งแค่การแสดงผลการวิจัย ในรูปเล่มของรายงานเท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของงานวิจัย ควรจะ
ทำการเผยแพร่งานวิจัยของตนเอง ต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งวิธีที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการเผยแพร่ผลงานวิจัย คือ การเขียนบทความวิจัย และส่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่มีคุณภาพ

สำหรับหัวข้อนี้ จะขอกล่าวถึงขั้นตอน ในการส่งบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ ในวารสารในระดับนานาชาติ จากประสบการณ์ รับส่งบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ วารสารวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศ สามารถสรุปเป็นขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ค้นหาชื่อวารสารทางวิชาการที่มีคุณภาพ

สำหรับคำว่า “วารสารที่มีคุณภาพ” นั้น ควรเป็นวารสาร ที่มีกระบวนการกลั่นกรอง จากผู้ทรงคุณวุฒิ ในสายวิชาการนั้น ๆ (Peer review) โดยนักวิจัยสามารถตรวจสอบได้จาก หน้าเว็บไซต์ของวารสาร ตัวอย่างในวารสารที่ชื่อว่า Tourism Management จะระบุอย่างชัดเจนว่า “Articles are the results of anonymous reviews by at least two referees chosen by the editor for their specialist knowledge.”(Elsevier B.V., 2015a, para.3) ดังที่ปรากฎในภาพด้านล่างนี้

ที่มา: Elsevier B.V. (2015a)

นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังอาจใช้ฐานข้อมูล ที่ได้รับการยอมรับ เป็นเครื่องมือในการช่วยค้นคว้าวารสารได้ เช่น ฐานข้อมูล Web of Science ของบริษัท Thomson Reuters โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อวารสารได้ที่ Master Journal List ที่ ip–science.thomsonreuters.com/mjl/และ ฐานข้อมูล SCOPUS ของบริษัท Elsevier เป็นต้น

โดยนักวิจัยควรคัดเลือกวารสารที่มีขอบข่าย หรือ Areas of study ที่ตรงกับลักษณะงานวิจัยของนักวิจัยเอง การคัดเลือกวารสาร จากฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับนี้ นับว่าเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ที่จะช่วยให้นักวิจัยมั่นใจได้ว่า หากบทความวิจัยของตนเอง ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ ในวารสารที่มี Peer review หรือ อยู่ในฐานข้อมูล ที่ได้รับการยอมรับ แสดงว่าผลงานวิจัย ได้รับการยอมรับจากผู้ทรงคุณวุฒิ ใน Area of study นั้น ๆ นอกจากนี้ ผลงานวิจัยนั้น ๆ ยังสามารถนำไปใช้ประกอบ การยื่นขอตeแหน่งทางวิชาการได้อีกด้วย และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ นักวิจัยควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า วารสารนั้น ๆ ไม่ได้ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ที่อยู่ใน Beall’s list

2. ตรวจสอบข้อกำหนดในการเขียนบทความวิจัย (Manuscript guidelines or guidelines for authors)

จากหน้าเว็บไซต์ของวารสาร ในขั้นตอนนี้ นักวิจัยอาจเลือกวารสารจำนวนหนึ่ง เช่น 4–5 ชื่อเรื่อง ที่เข้าเกณฑ์เป็นวารสารที่มีคุณภาพ และท าการตีพิมพ์บทความวิจัย ที่อยู่ใน Area of study เดียวกับงานวิจัยของนักวิจัยเอง โดยนักวิจัยควรอ่านข้อก าหนดในการเขียน และส่งบทความวิจัย ของแต่ละวารสารให้เข้าใจ ซึ่งวารสารแต่ละฉบับ มักจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน
3. ศึกษาวิธีการเขียนบทความวิจัย จากบทความวิจัยของนักวิจัย ท่านอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารแต่ละฉบับ ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัย พอจะมองภาพออกว่า บทความวิจัยที่ได้รับการตอบรับ ให้ตีพิมพ์ในวารสารนั้น ๆ มีลักษณะการเขียนอย่างไร การพิจารณาตัวอย่าง ของบทความวิจัยที่ได้รับการีพิมพ์ จะช่วยให้นักวิจัย เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า วารสารนั้น ๆ มักจะ
ตอบรับบทความวิจัยในลักษณะใด และผลงานวิจัยของนักวิจัย มีความสอดคล้องกับ Focus หรือ ขอบเขตของวารสารนั้น ๆ หรือไม่
4. ตรวจสอบว่า การส่งบทความวิจัยเพื่อการตีพิมพ์มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ เช่น ค่าดำเนินการต่าง ๆ ค่าเปิดบทความวิจัย ที่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Open access) ค่า review บทความวิจัย เป็นต้น
5. ทำการเลือกวารสารที่จะส่งบทความวิจัย โดยนักวิจัยควรเลือกวารสารที่มีข้อกำหนด ในการเขียนบทความวิจัย และมีบทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ ที่สอดคล้องกับลักษณะ ของงานวิจัยของนักวิจัยให้มากที่สุด เช่น หากงานวิจัยของนักวิจัย จำเป็นต้องเขียนเป็นบทความที่ค่อนข้างยาว ควรเลือกวารสาร ที่อนุญาตให้บทความวิจัย มีจำนวนคำที่ค่อนข้างมาก เช่น
7,000 คำ ขึ้นไป หรือ หากงานวิจัยเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ควรเลือกวารสาร ที่มักจะตีพิมพ์บทความวิจัย ที่ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นต้น สำหรับ
ในขั้นตอนนี้มีข้อควรระวัง คือ นักวิจัยควรส่งบทความวิจัยไปยังวารสารทีละฉบับ ไม่ควรส่งไปครั้งเดียวหลาย ๆ ฉบับ วารสารส่วนใหญ่ มักจะระบุข้อกำหนดนี้ไว้อย่างชัดเจน ในคำแนะนำสำหรับผู้เขียน เช่น ในวารสารชื่อ Journal of Hospitality & Tourism Research (SAGE Publication, 2015, para.1) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า

6. จัดเตรียมต้นฉบับ โดยนักวิจัยจะต้องเตรียมให้ตรงกับข้อกำหนดในการเขียนบทความของวารสารนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด เช่น จำนวนคำที่กำหนดในบทคัดย่อ (Abstract) จำนวนคำของเนื้อหา หัวข้อที่ควรมีในบทความ และรูปแบบการเขียนอ้างอิง เป็นต้น
7. ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบด้านภาษา เนื่องจากการจัดเตรียมต้นฉบับ เพื่อส่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ จะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเนื่องจากภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาหลักของคนไทย ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจึงควรส่งต้นฉบับ ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา หรือที่รู้จักกันว่า Proofreader ท าการตรวจสอบความถูกต้อง ของภาษาอังกฤษที่ใช้ ก่อนที่จะส่งต้นฉบับนั้น ๆ ให้กับวารสาร
8. ส่งต้นฉบับบทความวิจัยให้กับวารสารเพื่อพิจารณา โดยนักวิจัยควรตรวจสอบว่า วารสารที่เลือกไว้ ได้กำหนดให้ ผู้วิจัยส่งต้นฉบับบทความวิจัยโดยวิธีใด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วารสารแต่ละฉบับ จะมีข้อกำหนด ในการส่งบทความที่ไม่เหมือนกัน เช่น วารสาร Tourism Management กำหนดให้นักวิจัยส่งบทความวิจัย โดยผ่านระบบออนไลน์ โดยนักวิจัยจะต้องทำการ
ลงทะเบียน เพื่อสร้าง Account ของตนเองก่อน ที่http://ees.elsevier. com/jtma/default.asp?pg=preRegistration.asp (Elsevier B.V., 2015b) ตามภาพด้านล่างนี้
ที่มา: Elsevier B.V. (2015b)
ส่วนวารสาร Journal of Hospitality & Tourism Research กำหนดให้ผู้วิจัยส่งต้นฉบับบทความวิจัย ไปที่http://mc.manuscriptcentral.com/jhtr ดังตัวอย่างช้างล่างนี้ ซึ่งก็เช่นเดียวกับในกรณีของวารสารTourism Management คือ นักวิจัยจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อสร้างAccount ก่อน จึงจะสามารถส่งบทความวิจัย ไปยังวารสารได้

สำหรับการส่งต้นฉบับบทความวิจัย ไปยังวารสารนั้น มีข้อแนะน า คือ นักวิจัยควรจัดทำจดหมายน าที่เรียกว่า Cover letter เพื่อเป็นการเกริ่นนำ เกี่ยวกับบทความวิจัยของตนเอง และเพื่อยืนยันให้กองบรรณาธิการทราบว่า บทความวิจัยนี้เป็นผลงานของตนเอง และยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ ในวารสารฉบับใดมาก่อน

1. เทคนิคการทำวิจัยปริญญาเอก

2.วิธีการเขียนวิธีดำเนินการวิจัย

รับทำวิจัย รับทำวิทยานิพนธ์ รับแก้ไขงานวิจัย รับแก้ไขวิทยานิพนธ์
รับทำวิจัย รับทำวิทยานิพนธ์ รับแก้ไขงานวิจัย รับแก้ไขวิทยานิพนธ์

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย