เทคนิคการตีพิมพ์บทความวิชาการ
เพื่อตีพิมพ์บทความวิชาการประสบความสำเร็จ เทคนิคการตีพิมพ์บทความวิชาการ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเริ่มต้นด้วยการเลือกวารสารที่เหมาะสมและร่างต้นฉบับอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ขั้นต่อไป เตรียมจดหมายนำที่แข็งแรงและส่งผลงานของคุณผ่านพอร์ทัลออนไลน์ของวารสาร
หลังจากส่งผลงานแล้ว ควรพิจารณาคำติชมจากบรรณาธิการและผู้ตรวจทานอย่างรอบคอบ และเตรียมพร้อมสำหรับการแก้ไขที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่บทความของคุณจะเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตและตีพิมพ์ เนื้อหาต่อไปนี้ คือ เทคนิคการตีพิมพ์บทความวิชาการ ให้ประสบความสำเร็จ
ก่อนส่ง: การวิจัยและการเขียน
- เลือกวารสารที่เหมาะสม:ค้นคว้าวารสารในสาขาของคุณ โดยพิจารณาถึงเป้าหมาย ขอบเขต กลุ่มเป้าหมาย และตัวชี้วัดต่างๆ เช่น อันดับควอร์ไทล์และอัตราการตอบรับ ควรพิจารณาตัวเลือกสักสองสามตัวเลือกเผื่อกรณีที่ตัวเลือกแรกของคุณถูกปฏิเสธบทความ
- จัดโครงสร้างบทความของคุณ:ปฏิบัติตามรูปแบบมาตรฐานของ IMRaD (บทนำ วิธีการ ผลการวิจัย และการอภิปราย) หรือตามข้อกำหนดเฉพาะของวารสาร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้นำเสนอเรื่องราวของคุณอย่างชัดเจน โดยอธิบายว่างานวิจัยของคุณ “คืออะไร” “ทำไม” และ “อย่างไร”
- ปฏิบัติตามแนวทางของผู้เขียน:ก่อนที่จะเขียน โปรดอ่าน “คำแนะนำสำหรับผู้เขียน” ของวารสารเป้าหมาย เพื่อทำความเข้าใจข้อกำหนดทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดรูปแบบ สไตล์ และเนื้อหา
- เขียนให้ชัดเจนและกระชับ:ใช้ประโยคแสดงกริยา (active voice) และหลีกเลี่ยงศัพท์เฉพาะทาง (syndicate) หากเป็นไปได้ เพื่อให้งานของคุณเข้าถึงผู้อ่านได้อย่างกว้างขวาง อธิบายวิธีการและนิยามคำย่อให้ชัดเจน
- นำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิผล:ใช้กราฟ ตาราง และรูปภาพที่ชัดเจนและถูกต้องเพื่อสนับสนุนการค้นพบของคุณ
- รับคำติชม:ขอให้เพื่อนร่วมงาน นักวิชาการอาวุโส หรือผู้ร่วมงานตรวจสอบร่างของคุณก่อนส่ง
การส่งและการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
- เขียนจดหมายสมัครงานที่แข็งแกร่ง:ควรมีจดหมายหนึ่งหน้าที่น่าสนใจ แนะนำประเด็นสำคัญของงาน ข้อค้นพบสำคัญ และความสำคัญของงานในสาขานี้อย่างชัดเจน ระบุชื่อบรรณาธิการและแนบเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
- ส่งต้นฉบับของคุณ:ใช้ระบบส่งต้นฉบับออนไลน์ของวารสาร เช่นSpringer Manuscript Centralหรือ Elsevier Editorial Manager
- จัดการคำติชมอย่างมืออาชีพ:เตรียมพร้อมสำหรับการปฏิเสธ การแก้ไขเล็กน้อย หรือการขอให้แก้ไขครั้งใหญ่ ตอบกลับความคิดเห็นของผู้ตรวจทานและบรรณาธิการทั้งหมดอย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ พร้อมปรับปรุงแก้ไขตามที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงคุณภาพงานเขียนของคุณ
หลังการยอมรับ
- ร่วมมือกับฝ่ายผลิต:ทำงานร่วมกับทีมงานฝ่ายผลิตของวารสารในการแก้ไขต้นฉบับ การจัดรูปแบบ และขั้นตอนสุดท้ายอื่นๆ เพื่อเตรียมบทความของคุณสำหรับการตีพิมพ์
- เผยแพร่และส่งเสริม:เมื่อเผยแพร่แล้ว คุณสามารถส่งเสริมผลงานของคุณต่อไปเพื่อเพิ่มผลกระทบได้
การตีพิมพ์บทความวิชาการคือการนำงานวิจัยหรือบทความไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการ ซึ่งมีขั้นตอนหลักคือการเตรียมต้นฉบับให้ถูกต้องตามรูปแบบที่วารสารกำหนด จากนั้นส่งไปให้กองบรรณาธิการพิจารณาเพื่อส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพ เมื่อผ่านการแก้ไขตามคำแนะนำ ผู้เขียนจะได้รับหนังสือตอบรับเพื่อตีพิมพ์
ขั้นตอนการเตรียมบทความ
- วางแผนและเตรียมการ:
เลือกวารสารที่เหมาะสมกับสาขาที่จะเขียน ศึกษาและทำความเข้าใจ “คู่มือสำหรับผู้เขียน” (Author’s Guidelines) อย่างละเอียด
- เขียนบทความ:
- เขียนให้กระชับ ตรงประเด็น และมีความเชื่อมโยงกันทั้งเรื่อง
- จัดรูปแบบตามที่วารสารกำหนด โดยอาจรวมถึง:
- เนื้อหา: ชื่อเรื่อง, บทคัดย่อ (ภาษาไทยและอังกฤษ), บทนำ, ส่วนเนื้อหาหลัก, บทสรุป และรายการอ้างอิง
- รูปแบบตัวอักษร: ใช้แบบอักษรและขนาดตามที่วารสารกำหนด เช่น TH SarabunPSK ขนาด 15
- การอ้างอิง: ใช้รูปแบบการอ้างอิงที่วารสารกำหนด เช่น APA
- ตรวจสอบและทบทวน:
- ตรวจความถูกต้องทางภาษา การสะกด และการใช้เครื่องหมายวรรคตอน
- ตรวจสอบการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) เพื่อไม่ให้เกินกว่าที่วารสารกำหนด
เทคนิคการตีพิมพ์บทความวิชาการ : ขั้นตอนการส่งบทความ
- ส่งต้นฉบับ:
ส่งต้นฉบับผ่านระบบออนไลน์ของวารสาร โดยแนบไฟล์ในรูปแบบที่กำหนด
- รอการพิจารณา:
- กองบรรณาธิการจะตรวจสอบรูปแบบและความเหมาะสมเบื้องต้น
- ส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพในสาขาวิชานั้นๆ
- แก้ไขและปรับปรุง:
- รับคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ และนำไปแก้ไขให้ถูกต้อง
- ส่งบทความฉบับแก้ไขกลับไปยังกองบรรณาธิการผ่านระบบออนไลน์
- การยอมรับและตีพิมพ์:
- เมื่อบทความผ่านการตรวจสอบแล้ว กองบรรณาธิการจะจัดทำหนังสือตอบรับการตีพิมพ์
- รอการตีพิมพ์ตามรอบของวารสาร
ปัญหาที่กิดขึ้นสำหรับการตีพิมพ์บทความวิชาการ
ปัญหาหลักในการตีพิมพ์บทความวิชาการได้แก่ การเขียนที่ไม่ตรงตามรูปแบบของวารสาร การ เลือกวารสารที่ไม่เหมาะสม และ กระบวนการทบทวนและแก้ไข ที่ใช้เวลานาน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่อง คุณภาพของเนื้อหา ความ การหาผลงานที่มีความโดดเด่น รวมถึงความซับซ้อนของ รูปแบบการเผยแพร่แบบเปิด (Open Access)
ปัญหาหลักที่พบบ่อย
- การเขียนไม่ตรงตามรูปแบบวารสาร: บทความที่เขียนไม่เป็นไปตามรูปแบบที่วารสารกำหนด เช่น ขนาดตัวอักษร รูปแบบการอ้างอิง หรือโครงสร้างบทความ ทำให้เสียเวลาในการแก้ไข
- การเลือกวารสารที่ไม่เหมาะสม: การเลือกวารสารผิดเป้าหมาย เช่น เลือกวารสารที่คุณภาพไม่สอดคล้องกับระดับงานวิจัย (เช่น เลือกวารสาร TCI 1 สำหรับงานวิจัยระดับเริ่มต้น)
- กระบวนการทบทวนและแก้ไข: กระบวนการตรวจสอบและแก้ไขโดยผู้ทรงคุณวุฒิอาจใช้เวลานาน และบางครั้งอาจมีการแก้ไขที่ซับซ้อน
- คุณภาพและเนื้อหาของบทความ: เนื้อหาบทความไม่แข็งแรง ไม่มีความใหม่ หรือไม่น่าสนใจเพียงพอที่จะตีพิมพ์
- การหาจุดเด่น: การไม่สามารถเน้นย้ำสาระสำคัญหรือจุดเด่นของงานวิจัยได้ชัดเจนในบทความ
- ความซับซ้อนของระบบตีพิมพ์แบบเปิด (Open Access): แม้จะเป็นการเข้าถึงบทความได้ง่ายขึ้น แต่โมเดลธุรกิจนี้อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการตีพิมพ์
แนวทางป้องกันและแก้ไข
- ศึกษาข้อมูลวารสารอย่างละเอียด: เลือกวารสารที่ตรงกับสาขาและระดับงานวิจัย และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “แนวทางสำหรับนักวิจัยในการส่งบทความเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่” ก่อนเริ่มเขียน
- วางแผนการเขียนให้ดีตั้งแต่ต้น: วางแผนการเขียนให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันทั้งเรื่อง และเน้นย้ำสาระสำคัญที่ต้องการนำเสนอให้ชัดเจน
- เตรียมบทความให้พร้อมก่อนส่ง: เมื่อดำเนินการวิจัยเสร็จแล้ว ควรเตรียมบทความให้มีความสมบูรณ์ตามรูปแบบที่วารสารต้องการ
กระบวนการตีพิมพ์และข้อวิจารณ์
- ส่งบทความ: ส่งต้นฉบับไปยังวารสารที่เลือก โดยกรอกแบบฟอร์มและชำระค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ (เมื่อเข้าสู่กระบวนการประเมิน)
- การประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer review):
- เป็นขั้นตอนที่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาเดียวกันจะประเมินและให้ข้อเสนอแนะ
- ผู้เขียนควรเปิดรับคำวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์
- การปรับปรุงแก้ไข:
- นำข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิไปใช้แก้ไขและปรับปรุงบทความ
- ผู้เขียนต้องไม่คิดว่าตนเองเก่งแล้วและไม่โกรธน้อยใจเมื่อผลงานไม่ได้รับการยอมรับ
- ข้อพิจารณาเพิ่มเติม:
- กระบวนการวิจัยต้องมีความน่าเชื่อถือและไม่ปิดบังข้อมูล
- ผลงานต้องมีความคิดริเริ่มและเป็นตัวของตัวเอง
- ไม่มีความลักลอบหรือหลอกลวง
- การตีพิมพ์บทความวิชาการจะช่วยสร้างเครือข่ายทางวิชาการระหว่างนักวิชาการที่มีความสนใจเดียวกัน
ข้อควรระวังสำหรับการตีพิมพ์บทความวิชาการ
ข้อควรจำสำหรับการตีพิมพ์บทความวิชาการคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของงานวิจัย, การเขียนให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและตรงตามข้อกำหนดของวารสาร, การปฏิบัติตามจรรยาบรรณนักวิจัย และการปรับปรุงผลงานตามข้อเสนอแนะ โดยสิ่งสำคัญคือ ความถูกต้อง, ความเป็นกลาง, และ การอ้างอิงอย่างถูกต้อง
ก่อนการเขียน
- เลือกประเด็นที่น่าสนใจและมีความสำคัญ: ปัญหาที่ศึกษาควรเป็นประโยชน์และสอดคล้องกับความรู้ความสามารถของผู้วิจัย
- ทบทวนวรรณกรรมอย่างละเอียด: เพื่อหาช่องว่างในงานวิจัย และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
- เลือกวารสารที่เหมาะสม: พิจารณาขอบเขตการศึกษา กลุ่มเป้าหมาย และชื่อเสียงของวารสาร
- ศึกษาแนวทางการเขียนของวารสาร: ทำความเข้าใจข้อกำหนดเรื่องรูปแบบ, การอ้างอิง, และจำนวนคำให้ละเอียด
ระหว่างการเขียน
- เขียนให้ชัดเจนและกระชับ: จัดโครงสร้างบทความให้เป็นระบบ เช่น บทคัดย่อ, บทนำ, วิธีการ, ผลลัพธ์, และการอภิปรายผล
- ตั้งชื่อและบทคัดย่อให้น่าสนใจ: ควรเป็นชื่อที่สื่อถึงเนื้อหาได้ดี และบทคัดย่อต้องสรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดอย่างรัดกุม
- ใช้ภาษาและรูปแบบที่เป็นทางการ (academic style): เลือกใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องและเป็นทางการ หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาพูด
- นำเสนอผลอย่างเป็นกลาง: หลีกเลี่ยงความลำเอียง หรือการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
- อ้างอิงอย่างถูกต้อง: ต้องอ้างอิงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และระบุชื่อผู้เขียนเดิมให้ครบถ้วน
หลังการเขียน
- แก้ไขจุดบกพร่อง: ตรวจทานความถูกต้องของข้อมูล, การสะกด, และการคำนวณ
- พร้อมรับความคิดเห็น (peer review): เปิดใจรับฟังคำวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และนำไปปรับปรุงแก้ไข
- รักษาจรรยาบรรณนักวิจัย: ห้ามนำข้อมูลเท็จมาใช้ หรือคัดลอกผลงานผู้อื่น (plagiarism) และส่งบทความฉบับเดียวไปยังหลายวารสารพร้อมกัน
อ้างอิง
